02-107-0546 หรือ 02-107-0547  |  อีเมล: ekcsales006@ekkaraj.co.th, ekcsales007@ekkaraj.co.th

CLOUD

CLOUD

2023-04-26 17:19:27   |   ดู 0
Cloudคืออะไร มีกี่ประเภท หน้าที่การทำงาน และมีความสำคัญยังไง CLOUD


Cloud (Cloud Computing) หรือ การประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ คือ เทคโนโลยีระบบคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการแบบเครือข่ายออนไลน์ทุกรูปแบบ ตั้งแต่หน่วยประมวลผล, บริการซอฟต์แวร์, แอปพลิเคชัน รวมถึงบริการด้านโครงสร้างพื้นฐาน IT ต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับองค์กร อย่างระบบเซิร์ฟเวอร์ หน่วยจัดเก็บข้อมูล ระบบเครือข่าย ระบบจำลองคอมพิวเตอร์ ไปจนถึงเทคโนโลยีจำพวก AI เปรียบเสมือนการใช้งานคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งที่ผู้ใช้สามารถทำงานได้จากทุกที่บนโลกเพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต ซึ่งแตกต่างจากคอมพิวเตอร์ทั่วไปคือการใช้งานที่มีขีดจำกัดสูงกว่า ทำให้มีความเร็ว ปลอดภัย และสะดวกมากยิ่งขึ้น

Cloud Storage คือ การเก็บข้อมูลบนเครื่อง Server และอยู่ในโลกออนไลน์ที่เราเรียกว่า Cloud ผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในการเรียกดูและใช้งานข้อมูลบน Cloud ซึ่งอาจจะเก็บข้อมูลไว้ใน server หลาย ๆ ตัว โดยกระจายข้อมูลออกเป็นเครื่องละเล็กละน้อย ผู้ให้บริการคลาวด์ (Host) จะดูแลเป็นคนจัดการบำรุงรักษาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ทั้งหมดที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูล ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถลดต้นทุนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ได้

Cloud Server คือ กลุ่มของ Physical Server หลาย ๆ ตัว ที่ช่วยกันทำงานให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ซึ่ง Cloud Server นี้ จะให้บริการในรูปแบบ Virtual Server (เซิร์ฟเวอร์เสมือน) Cloud Server สามารถสร้าง Service ขึ้นมาทำงานได้หลากหลาย Cloud แตกต่างกับเครื่อง Server ที่ เครื่อง Server เมื่อสร้าง OS ขึ้นมา 1 ตัวแล้ว OS ก็จะทำงานภายใต้เครื่องนั้น ๆ เมื่อเครื่องมีปัญหา OS ก็จะไม่สามารถทำงานต่อได้ แต่ Cloud จะประกอบด้วย Server หลาย ๆ เครื่อง ช่วยกันทำงาน เช่น ถ้าต้องการสร้าง Service ที่เป็น VM ระบบ Cloud ก็จะทำการจำลอง VM นั้น ๆ


ประเภทของ Cloud


ทำหน้าที่เป็น Host บริการผ่านอินเตอร์เน็ต ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถ จัดเก็บข้อมูล, ดำเนินการ และ จัดการข้อมูลต่างๆ ผ่านอินเตอร์เนตโดยแลกกับการเสียค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่ง ซึ่งระบบ Host ออนไลน์นี้มีตั้งแต่ Scale เล็กไปจนถึงใหญ่

การให้บริการในรูปแบบของ Cloud 
1.IaaS (Infrastructure as a Service) คือ การให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที ( Infrastructure) และระบบการจัดเก็บข้อมูลขององค์กร (Storage) เพื่อรองรับการใช้งาน Software และ Application เช่น Microsoft Azure, Dropbox, Google Drive for business, Amazon Web Services

2.PaaS (Platform as a service) คือ การให้บริการด้าน Platform สำหรับผู้ใช้งานเช่น Developer ที่ทำงานด้าน Software และ Application โดยผู้ให้บริการ Cloud จะจัดเตรียมสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ในการพัฒนา Software และ Application เอาไว้ให้ เช่น Database Server, Web Application เป็นต้น

3.SaaS (Software as a service) คือการให้บริการด้าน Software และ Application ผ่านทางอินเตอร์เน็ต คล้ายกับการเช่าใช้ คิดค่าบริการตามลักษณะการใช้งาน เช่น Microsoft Office 365, Google Docutment, Gmail 

ข้อดีและข้อเสีย
ข้อดี 

  • ประหยัดการลงทุนทรัพยากรคอมพิวเตอร์ เพราะใช้รูปแบบบริการแบบเช่าผ่านผู้ให้บริการ สามารถใช้บริการได้เท่าที่ต้องการ โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้ง พัฒนาและขึ้นระบบเองทั้งหมด 
  • เพิ่มขนาดทรัพยากรได้ง่ายดายและรวดเร็ว ตามปริมาณการใช้งานหรือลดการใช้งานของผู้ที่ต้องการใช้ 
  • ลดปัญหาการดูแลระบบ เนื่องจากบริการเป็นรูปแบบของการเช่าใช้ จึงเป็นหน้าที่ของผู้ให้บริการที่จะต้องดูแลระบบแทน ซึ่งจะช่วยลดทั้งความยุ่งยากของการดูแลและลดจำนวนบุคลากรที่ต้องจ้างมาเพื่อมาดูแลระบบ
  • ลดต้นทุนค่าดูแลบำรุงรักษา เพราะสามารถจ่ายตามใช้งานจริง และสามารถปรับลดขนาดการลงทุนตามความต้องการ

  • ข้อเสีย 
    • มีข้อจำกัดเรื่องการทำ Config และการปรับแต่งระบบ
    • สิทธิในการความคุมบางอย่างไม่สามารถจัดการได้เอง
    • ต้องมีการวางแผนเรื่องการเงินที่มากกว่าการซื้อขาด